วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2551

version Linux

Red Hat Linux

==> เรดแฮ็ท เกิดขึ้นจากการรวมตัวของกลุ่มโปรแกรมเมอร์ ในแถบนอร์ธ-แคโลไลนาในสหรัฐอเมริกา โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างดิสตริบิวชั่นของ Linux ที่มีการติดตั้งและการใช้งานให้ง่ายที่สุดเท่าที่เป็นไปได้แนวคิดพื้นฐานของเรดแฮ็ทคือเรื่องของ แพ็กเกจ (package) ซึ่งเป็นชุดของโปรแกรม ที่สามารถทำการติดตั้งเพิ่มเข้าและถอดออกได้ โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องทำการคอมไพล์โปรแกรมใหม่ หรือไม่ต้องทราบรายละเอียดแต่อย่างใด (โดยปกติแล้วการติดตั้งซอฟต์แวร์ในระบบ UNIX และ Linux จะต้องขยายไฟล์ที่ถูกบีบอัดไว้ออกมาก่อน แล้วคอมไพล์ตัวโปรแกรม Linux ใหม่พร้อมกับโปรแกรมเหล่านั้น จึงจะสามารถติดตั้งซอฟต์แวร์นั้น เพิ่มลงไปในระบบได้)ดังนั้น Red Hat จึงได้พัฒนาโปรแกรม RPM (RPM Package Manager) ขึ้นมาสำหรับติดตั้ง ถอดถอน และบริหารชุดของแพ็กเกจดังกล่าว โดยไม่ต้องเสียเวลาคอมไพล์ใหม่ (ซึ่ง RPM ในเวอร์ชันแรกๆจะพัฒนาด้วยภาษา Perl แต่ในเวอร์ชันต่อๆมาจะพัฒนาด้วยภาษา C ทำให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น) และนอกจาก RPM แล้วทางบริษัท Red Hat ก็ยังได้พัฒนาโปรแกรมติดตั้งที่เรียกว่า GLINT (Graphical Linux INstallation Tool) ซึ่งมีลักษณะการใช้งานเป็นแบบกราฟิกขึ้น จึงทำให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมากRed Hat Linux เวอร์ชันแรกได้ออกจำหน่ายเมื่อช่วงฤดูร้อนของปี ค.ศ. 1994 และด้วยคุณสมบัติเด่นของ RPM จึงส่งผลให้ Red Hat Linux ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นดิสตริบิวชั่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในเชิงธุรกิจ ขณะที่ RPM ก็ได้รับการยอมรับ และนำไปใช้เป็นเครื่องมือมาตรฐาน ในการบริหารแพ็กเกจบนระบบ UNIX อื่นๆนอกเหนือจาก Linux ด้วย

Suse

==> SuSE เป็นลีนุกซ์สัญชาติเยอรมัน ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในเยอรมันและยุโรปการติดตั้ง SuSE นั้น มีโปรแกรมที่จัดการการติดตั้งชื่อ YaST2 ซึ่งทำให้การติดตั้งได้ง่ายมากภาษาในการติดตั้งยังไม่มีภาษาไทย

Debian
==> Debian นั้นเริ่มเมื่อปี 1993 โดยนายเอียน เมอร์ดอค คำว่า Debian ก็มาจากชื่อของเค้า เอียน ( -ian ) กับชื่อแฟนของเค้า เด็บบาร่า (deb-) เอามารวมกันก็เป็น Debian นี่ถือได้ว่าเป็นลินุกซ์สำหรับแฮคเกอร์โดยแท้จริง Debian มีจุดแข็งอยู่ตรงระบบการลงโปรแกรมที่เรียกได้ว่าดีมากๆ เรียกว่า APT ที่ใช้งานได้ง่ายกว่า RPM ของเรดแฮทมาก และจะสะดวกมากขึ้นอีกถ้าเรามีเน็ตแรงๆ อยู่ด้วย เนื่องจากว่า APT จะทำการอัพเดทโปรแกรมให้เราอัตโนมัติ เช่น ต้องการลง Mozilla แค่สั่ง apt-get mozilla แล้วก็รออย่างเดียว Mozilla ก็จะพร้อมใช้งานทันที แต่ว่าส่วนอื่นๆ ของ Debian ยังไม่เป็นมิตรกับผู้ใช้หน้าใหม่เช่นกัน เลยมีบริษัทหัวใสจำนวนมาก ได้นำ Debian ดั้งเดิมมาดัดแปลงให้เหมาะกับผู้ใช้หน้าใหม่มากขึ้น แล้วนำมาขาย เช่น Xandros และ Lindows

Mandrake Linux

==> Mandriva Linux เป็นลีนุกซ์ดิสโทรที่มีบุคลิกที่สุดสำอาง เริ่มพัฒนามาพร้อมๆ กับ Red Hat Linux แต่มีแนวทางเป็นของตนเอง และไม่คิดตามหลังใคร มิหนำซ้ำยังหาญกล้านำเทคโนโลยีใหม่ๆ มารวมไว้ก่อนดิสโทรอื่นเสมอๆ จนทำให้มีหมายเลขเวอร์ชั่นหนีห่างจาก Red Hat ชนิดไม่เห็นฝุ่น ความที่เน้น Cutting-Edge Technology เช่นนี้มากจนเกินไป จนลืมให้ความสำคัญกับการดำเนินกิจการจึงทำให้ขาดทุนและเกือบต้องเลิกกิจการไป หลังจากได้รับการบริจาคเงินช่วยเหลือและต่อมารวมกิจการกับ Connectiva Linux จนเป็น Mandriva Linux แล้ว ลีนุกซ์ดิสโทรนี้ก็ยังคงมีลักษณะที่เน้นการนำเสนอเทคโนโลยีล้ำหน้าคู่แข่งเสมอมา


เรียนรู้เพิ่มเติม

(http://www.redhat.com/)บริษัท
(http://www.suse.com/)
(http://www.debian.org/)โครงการ

วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

คำสั่งต่างๆ ในระบบปฏิบัติการ UNIX

คำสั่งเกี่ยวกับการจัดการไฟล์

1. คำสั่ง ls
==> คำสั่ง ls เป็นคำสั่งที่ใช้ในการแสดงชื่อไฟล์หรือไดเร็คทอรี่ย่อยต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้
ไดเร็คทอรี่ปัจจุบันหรือไดเร็คทอรี่ที่ระบุรูปแบบ เช่น
: ls [option] [file_name directory_name]
-- file_name คือ ชื่อไฟล์ที่ต้องการแสดง ในกรณีที่ต้องการระบุชื่อไฟล์
-- directory_name คือ ชื่อไดเร็คทอรี่ที่ต้องการแสดง ในกรณีที่ต้องการระบุชื่อ
ไดเร็คทอรี่
-- option คือ ทางเลือกอื่นๆ ในการแสดงชื่อไฟล์
ที่สำคัญมีดังนี้
-l คือ การแสดงรายชื่อไฟล์แบบยาว ข้อมูลที่แสดงด้วยทางเลือกนี้จากซ้ายไป ขวา ได้แก่ ชนิดและโหมดของไฟล์ จำนวนลิงค์ ชื่อเจ้าของ ขนาดของไฟล์ วันที่ที่มีการแก้ไข ไฟล์ครั้งล่าสุด และชื่อของไฟล์ ซึ่งถ้าไม่ใส่ทางเลือกนี้ แล้ว คำสั่ง ls ก็จะแสดงเฉพาะชื่อของไฟล์ออกมาก
-t แสดงชื่อของไฟล์ โดยเรียงลำดับที่แก้ไขไฟล์ครั้งสุดท้าย โดยจะแสดงชื่อของ ไฟล์ที่ได้รับการแก้ไขหลังสุดก่อน ถ้าไม่ใส่ทางเลือกนี้ ls ก็จะพิมพ์รายชื่อ ของไฟล์เรียงตามลำดับตัวอักษร
-d ใช้ในการบังคับให้แสดงข้อมูลของไดเร็คทอรีที่ระบุไว้ในส่วนของ argument ซึ่ง ถ้าไม่ใช้ทางเลือกนี้แล้ว คำสั่ง ls จะแสดงรายชื่อไฟล์ “ภายใต้” ไดเร็คทอรีที่ ระบุแทน
-a โดยปรกติแล้ว คำสั่ง ls จะไม่แสดงชื่อของไฟล์ที่มีชื่อขึ้นต้นด้วย “.” ออกมาการใช้ทางเลือกนี้เพื่อที่จะให้แสดงรายชื่อไฟล์ทุกไฟล์ เช่น “.profile”

2. คำสั่ง Cd
==> เป็นคำสั่ง Change Directoryของระบบ Unix,Linux (คล้ายกับคำสั่งCDของDOS)
รูปแบบการใช้งาน : cd [directory]
ตัวอย่าง : cd /etc [Enter]ไปDirectory etc cd ..[Enter]
ความหมาย ย้ายไปDirectoryอีก1ชั้น

3. Pwd
==> เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับแสดง Directory ปัจจุบัน (ในทำนองเดียวกับการพิมพ์ cd บน DOS) มาจากคำว่า print work directory
รูปแบบ : pwd
ตัวอย่าง : แสดงว่าขณะนี้เราทำงานอยู่ที่ไดเร็คทอรี่ใด $ pwd /home/train1

4.File
==> คำสั่ง fileบนระบบ DOS/Windows นั้น ประเภทของแฟ้มข้อมูลจะถูกระบุด้วยนามสกุล แต่ใน UNIX จะไม่มีนามสกุลเพื่อใช้ระบุประเภทของแฟ้มข้อมูล ดังนั้นการหาประเภทของแฟ้มข้อมูลจะดูจาก Context ภายในของแฟ้ม ซึ่งคำสั่ง file จะทำการอ่าน Content และบอกประเภทของแฟ้มข้อมูลนั้นๆรูปแบบคำสั่ง : file [option]... file
ตัวอย่าง : file /bin/shfile report1.doc

5. Mv
==> เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการย้ายแฟ้มข้อมูลและ Directory รวมถึงการเปลี่ยนชื่อด้วย (ในทำนองเดียวกับ dos) มาจากคำว่า move รูปแบบคำสั่ง : mv source target
ตัวอย่าง : mv *.tar /backup, mv test.txt old.txt, mv bin oldbin

6. Mkdir
==> เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการสร้าง directory (ในทำนองเดียวกับ dos) มาจากคำว่า make directoryรูปแบบของคำสั่ง : mkdir mkdir [option] [file] โดย option ที่มักใช้กันใน mkdir คือ
-m จะทำการกำหนด Permissioin (ให้ดูคำสั่ง chmod เพิ่มเติม)
-p จะทำการสร้าง Parent Directory ให้ด้วยกรณีที่ยังไม่มีการระบุ directory ในที่นี้อาจเป็น relative หรือ absolute path ก็ได้
ตัวอย่าง : mkdir /home, mkdir -p -m755 ~/้home/user1

7.Rm (remove)
==> ใช้ลบไฟล์ เช่น rm file1 file2 file3 …… ใช้ rm -r directory สำหรับไดเรคทอรี

8. Rmdir
==> เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการลบ directory (ในทำนองเดียวกับ dos) มาจากคำว่า remove directory โครงสร้างคำสั่ง rmdir [option] [file] โดย option ที่มักใช้กันใน mkdir คือ
-p จะทำการลบ Child และ Parent Directory ตามลำดับ directory ในที่นี้อาจเป็น relative หรือ absolute path ก็ได้
ตัวอย่าง : rmdir /home

9. Chown
==> คำสั่งChange Ownerของระบบ Unix,Linux (เป็นการเปลี่ยนเจ้าของไฟล์)
รูปแบบการใช้งาน : chown [ซื่อเจ้าของไฟล์] (ชื่อFile)
ตัวอย่าง : chown user1 filename คือเปลี่ยนเจ้าของไฟล์ชื่อ
- filename เป็นUser1chown -R user1.root dirname คือเปลี่ยนทั้งเจ้าของไฟล์และกลุ่มไปพร้อมกันทุกไฟล์ใน Sub dirname.

10. Chgrp
==> เป็นคำสั่งChange Group ของระบบ Unix,Linux (เป็นการเปลี่ยนกลุ่มเจ้าของไฟล์)
รูปแบบการใช้งาน : chgrp [-chfRv] (Group) (File)
ตัวอย่าง : chgrp root /root/* เปลี่ยนGroupให้กับไฟล์ทุกไฟล์ในไดเรคทอรี่ /root ให้เป็น Group root

คำสั่งเกี่ยวกับการจัดการโปรเซส


1. Ps
==> แสดง Process หรือโปรแกรมที่ประมวลผลอยู่ในระบบขณะนั้นช่วยให้ผู้ดูแลระบบ ติดตามได้ว่ามีโปรแกรมอะไรที่ไม่ถูกต้อง run อยู่ หรือโปรแกรมอะไร ที่ผู้ศึกษาลองประมวลผลแล้วค้างอยู่ จะได้ทำการแก้ไง มิฉะนั้นระบบก็จะทำงานค้าง เพราะโปรแกรมที่ไม่ควรอยู่ในระบบ กำลังประมวลผลโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะพวก bot จะทำให้ server ล่มง่ายมาก
ตัวอย่างคำสั่ง และการใช้งาน
ps :: แสดงชื่อ process ต่าง ๆ ที่ทำงานอยู่อย่างสั้น
ps -ef :: แสดงข้อมูลของ process โดยละเอียด
ps -ax :: แสดงข้อมูลของ process พร้อมชื่อโปรแกรมได้ละเอียด
ps -aux :: แสดงข้อมูลของ process พร้อมชื่อโปรแกรม และชื่อผู้สั่งได้ละเอียดมาก

2. Kill
==> เมื่อทราบว่า process ใดที่มีปัญหา ก็จะเห็นเลขประจำ process คำสั่ง kill จะสามารถ process ออกจากระบบได้ ช่วยยกเลิก process ที่ไม่ถูกต้องออกจากระบบ ถ้าขณะนั้นผู้ใช้คนหนึ่งกำลังใช้งานอยู่ หาก process หลักของเขาถูก kill จะทำให้ผู้ใช้ท่านนั้น หลุดออกจากระบบทันที (สำหรับคำสั่งนี้จะถูกใช้โดย super user เท่านั้น ผู้ใช้ธรรมดาไม่มีสิทธิ)
ตัวอย่างคำสั่ง และการใช้งาน : kill -9 เลขประจำprocess :: เลขประจำ process จะได้จากการใช้ ps -ef อยู่แล้ว kill -9 1255 :: ลบ process ที่ 1255 ออกจากระบบไป

3. Fg
==> โดยส่วนมากใช้คำสั่ง fg เพื่อที่นำ การทำงานของ process ที่หยุดลงไปกลับคืนมาทำงานต่อ (ซึ่งก็คือเหมือนคำสั่ง Ctrl-Z ) โดยส่ง signal ให้แก่ process ว่า CONT signal

4. Bg
==>จะทำงานเหมือนกับคำสั่ง FG แต่จะให้สำหรับ ทำให้ process ที่อยู่ในส่วน Background ของระบบ เพื่อสั่งให้มันประมวลผลต่อ

5. Jobs
==> คำสั่ง jobs ของระบบ Unix,Linux (เป็นคำสั่งสำหรับกำหนดควบคุม การรับส่งผ่านข้อมูลของ Firewall)
รูปแบบการใช้งาน : jobsตัวอย่าง : #sleep 20 & jobs
ตัวอย่าง : #sleep 20 & jobs

คำสั่งสำรองข้อมูล


1. Tar
==>เป็นคำสั่งเพื่อการ backup และ restore file ทั้งนี้การ tar จะเก็บทั้งโครง สร้าง directory และ file permission ด้วย (เหมาะสำหรับการเคลื่อนย้าย หรือแจกจ่ายโปรแกรมบนระบบ UNIX) มาจากคำว่า tape archive
รูปแบบคำสั่ง : tar [option]... [file]... โดย option ที่มักใช้กันใน echo คือ
-c ทำการสร้างใหม่ (backup)
-t แสดงรายชื่อแฟ้มข้อมูลในแฟ้มที่ backup ไว้
-v ตรวจสอบความถูกต้องของการประมวลผล
-f ผลลัพธ์ของมาที่ file -x ทำการ restore
ตัวอย่าง : tar -xvf data.tarTar –cvf backup.tar/home/khajorn เป็นการสร้างไฟล์ Tar จากโฟลเดอร์ KhajornTar –tvf tarfile less แสดงผลออกในรูปแบบคำสั่ง lessTar –xvf tarfile เป็นการกระจายไฟล์ และไดเรคทรอรี่ในไฟล์ tar ในไดเรคทรอรี่ที่ทำงานอยู่ถ้าใช้ –czvf แทน –cvf จะสร้างไฟล์ และปิดท้ายด้วย .tgz

2.Gzip
==> ทำหน้าที่บีบอัดไฟล์รูปแบบการใช้งานgzip <พารามิเตอร์> <ไฟล์ > <พารามิเตอร์>
ตัวอย่างการใช้ gzip star.txt star.zipfilename.tar.gz ใช้ unzip ไฟล์ผลที่ได้จะเป็น filename.tar

3.Gunzip
==> ขยายไฟล์ที่บีบไว้รูปแบบการใช้งานgunzip <พารามิเตอร์> <ไฟล์ > <พารามิเตอร์>
ตัวอย่างการใช้งาน gunzip star.zip

คำสั่งเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร


1. telnet
==> ใช้ติดต่อเข้า server ต่าง ๆ ตาม port ที่ต้องการ แต่ปัจจุบัน server ต่าง ๆ ปิดบริการ telnet แต่เปิด SSH แทน: user interface to the TELNET protocol
ตัวอย่างคำสั่ง และการใช้งาน
telnet 202.202.202.202 :: ขอติดต่อเข้าเครื่อง 202.202.202.202 การไม่กำหนด port คือเข้า port 23
telnet www.school.net.th 21 :: ขอติดต่อผ่าน port 21 ซึ่งเป็น FTP port
telnet mail.loxinfo.co.th 25 :: ตรวจ smtp ว่าตอบสนองกลับมา หรือไม่
telnet class.yonok.ac.th 110 :: ทดสอบ pop service ของ windows server 2003 Microsoft Windows POP3 Service Version 1.0 ready.

2. ftp
==> คำสั่ง ftp ของระบบ Unix,Linux (เป็นโปรแกรมรับ-ส่งไฟล์ )
รูปแบบการใช้งาน : ftp (IP or Name of FTP Server)
ตัวอย่าง : ftp 132.209.1.2 [Enter] Login:anonymous , Password:
Username@YourDomain.com
คำสั่งที่เกี่ยวข้อง
ls - ดูไฟล์
pwd -ดูdir. ที่อยู่
cd - เปลี่ยน dir
lcd - เปลี่ยน local dir
mput* -ส่งไฟล์
mget - รับไฟล์
bye - ออก

3. lynx
==> Text browser ที่ใช้งานง่าย ใช้ดู source หรือ download ได้ (ในเครื่องผมไม่ได้ลงไว้)
ตัวอย่างคำสั่ง และการใช้งาน
lynx www.thaiall.com :: เพื่อเปิดเว็บ www.thaiall.com แบบ text modelynx http://www.yonok.ac.th :: เพื่อเปิดเว็บ www.yonok.ac.th แบบ text modelynx -dump http://www.yonok.ac.th :: เพื่อแสดงผลลัพธ์แบบไม่ interactive คือการ view ผลแล้วหยุดทันที

4. mesg mesg
==> ดู status การรับการติดต่อของ terminalmesg y เปิดให้ terminal สามารถรับการติดต่อได้mesgn ปิดไม่ให้ terminal สามารถรับการติดต่อได้

5. ping
==> ตรวจสอบ ip ของเครื่องเป้าหมาย และการเชื่อมต่อ internet : send ICMP ECHO_REQUEST to network hosts
ตัวอย่างคำสั่ง และการใช้งาน
ping www.thaiall.com :: ตัวสอบการมีอยู่ของ www.thaiall.com และแสดงเลข IP ของเว็บนี้
ping 202.29.78.100 -c 5 :: แสดงผลการทดสอบเพียง 5 บรรทัด
ping 202.29.78.2 :: ผลดังข้างล่างนี้ แสดงว่าไม่พบเครื่องที่มีเลข ip ดังกล่าว
PING 202.29.78.2 (202.29.78.2) from 202.29.78.12 : 56(84) bytes of data.
From 202.29.78.12 icmp_seq=1 Destination Host Unreachable
From 202.29.78.12 icmp_seq=2 Destination Host Unreachable
From 202.29.78.12 icmp_seq=3 Destination Host Unreachable

6. write
==> เป็นคำสั่งใช้เพื่อการส่งข้อมูลทางเดียวจากผู้เขียนไปถึงผู้รับบนเครื่องเดียวกันเท่านั้น
รูปแบบคำสั่ง : write user [tty] เมื่อมีการพิมพ์คำสั่ง write ผู้ใช้จะเห็นข้อความซึ่งจะแสดงว่าข้อความดังกล่าวถูกส่งมาโดยใคร ซึ่งหากผู้รับต้องการตอบกลับ ก็จะต้องใช้คำสั่ง write เช่นกัน เมื่อพิมพ์เสร็จแล้วให้พิมพ์ตัวอักษร EOF หรือ กด CTRL+C เพื่อเป็นการ interrupt ทั้งนี้ข้อความที่พิมพ์หลังจาก write จะถูกส่งหลังจากการกด Enter เท่านั้น
ตัวอย่าง : write m2k


คำสั่งอื่น


1. At
==> มีไว้สำหรับสั่งการให้โมเด็มซ้ำสตริงคำสั่งสุดท้าย โมเด็มจะ ปฏิบัติตามคำสั่งทันทีที่พิมพ์เครื่องหมาย/ ไม่จำเป็นต้องป้อนคำเติมหน้าคำสั่ง

2. Cpio
==> Cpio ย่อจาก Copy in and Out เป็นการแบ็คอัพข้อมูล
รูปแบบการใช้ : Cpio flags [options]Fc –s [old=new] [command]
ตัวอย่างการใช้
Cpio –ocv > /dev/fd0
Cpio –icv “*.c” < /dev/fd0

3.Bc
==> Bc คำสั่งเรียกใช้โปรแกรมคำนวณเลขของระบบ Unix,Linux
รูปแบบการใช้งาน : bc [-lwsqv] [option] [file]
ตัวอย่าง
bc [Enter] 1+2 [Enter] 1^2 [Enter] a=3 [Enter] b=4 [Enter] a*b [Enter] x=2;y=5;x+y[Enter] [Ctrl-d] เพื่อออก
**หมายเหตุ ** : คำสั่งนี้จะใช้ได้ต้องInstall Packet ลงไปก่อน

4.Basename

==> เป็นคำสั่งสำหรับสกัดเอาชื่อไฟล์ไฟล์โดยตัดส่วนขยายชื่อไฟล์ (file extension) .gif ออก

5. Last

==> เป็นคำสั่งที่จะทำให้ loop หยุดทำงานและออกมาจาก loop ทันที

6. Crontab

==> มีไว้เพื่อการตั้งเวลาทำงานคำสั่งหรือโปรแกรมล่วงหน้า ตามเวลาที่ ผู้ใช้ต้องการ แต่การเปิดอนุญาติเช่นนี้อาจสร้างปัญหาให้แก่ระบบ

7. Dd

==> ใช้สำหรับจัดย่อหน้าสำหรับคำอธิบาย

8. Du

==> แสดงการเนื้อที่ใช้งาน ของแต่ละ directory โดยละเอียด. ช่วยให้ผู้ดูแล ระบบรู้ว่า directory ใด ใช้เนื้อที่ใด หรือใช้ดูรวม ๆ

9. Dirname

==> คือเปลี่ยนทั้งเจ้าของไฟล์และกลุ่มไปพร้อมกันทุกไฟล์ใน Sub dirname

10. Ln

==> เป็นคำสั่งไว้สร้าง link ไปยังที่ ที่ต้องการ คล้ายกับ shortcut

11. Env

==> แสดงค่า environment ปัจจุบัน

12. Eject

==> คำสั่ง EJECT เป็นคำสั่งให้นำคำสั่งที่ตามหลังคำสั่ง EJECT ไปขึ้นหน้าใหม่ ทั้งนี้เพื่อให้แต่ละส่วนของโปรแกรมใหญ่ๆ ขึ้นหน้าใหม่ ส่วนคำสั่ง EJECT จะไม่ปรากฏใน Assembly Listing

13. Exec

==> ที่ใช้ในการแทนค่าตัวแปรแล้วรันคำสั่งแบบพลวัต (dynamicly) บันทึกพฤติกรรมของ exec ไว้

14. Free

==> แสดงหน่วยความจำที่เหลืออยู่บนระบบ โครงสร้างคำสั่ง free [-b-k-m] โดย option ที่มักใช้กันใน free คือ
-b แสดงผลลัพธ์เป็นหน่วย byte
-k แสดงผลลัพธ์เป็นหน่วย kilobyte
-m แสดงผลลัพธ์เป็นหน่วย megabyte
ตัวอย่าง free free -b free -k

15.Groups

16. hostname
==> คำสั่งแสดงชื่อเครื่องที่ใช้อยู่

17. Lp


18. Mount

==> คำสั่ง mount ของระบบ Unix,Linux (เป็นคำสั่งเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับระบบ)
รูปแบบการใช้งาน : mount (-t type) DeviceDriver MountPoint
ตัวอย่างการใช้ Mount CdRom
แบบที่1
mount -t iso9660 /dev/cdrom /mnt/cdrom
หรือ
# mkdir /mnt/cdrom
# mount_cd9660 /dev/cd0a /mnt/cdrom
แบบที่2
mount /dev/cdrom (เมื่อmountแล้วCDจะอยู่ที่ /mnt/CdRom ยกเลิกดูคำสั่ง Unmount)

19. Mt

==> เป็นคำสั่งกำหนดและแก้ไขรหัสผ่านของ User ของระบบ Unix,Linux ... คำสั่งกำหนดคำสั่งย่อ ของระบบ Unix,Linux

20.Nice

==> เป็นคำสั่งหรือโปรอกรมเข้าสู่เครื่อง .... ติดต่อ nice หรือ ติดต่อผู้บริหารเว็บไซต์ + Powered by KnowledgeVolution

21. Nohup


22. Netstat

==> จะแสดงเป็นตัวเลข IP ยากต่อการเดา และการดูจริงๆคุณต้องสังเกตที่ port ที่เครื่องคุณด้วยว่าเป็น port ที่ใช้ทำอะไร

23.Od

==> แสดงเนื้อหาในไฟล์ไบนารี่

24.Pr

==> คือส่วนหนึ่งของภาษา HTML. คุณสามารถใช้ BBCode ในข้อความที่คุณพิมพ์. และคุณสามารถยกเลิกการใช้ BBCode ในแต่ละข้อความได้ในแบบฟอร์มกรอกข้อความ. BBCode มีรูปแบบคล้ายๆกับภาษา HTML

25. Df

==> คำสั่ง df ของระบบ Unix,Linux (เป็นการตรวจสอบการใช้พื่นที่บนฮาร์ดดิสก์)
รูปแบบการใช้งาน df [option] [file]
ตัวอย่าง df [Enter]

26. printf

==> รับค่าตัวแรกเป็นข้อความที่จัดรูปแบบการแสดงผล และรับรายการของข้อมูลที่ต้องการแสดงผลถัดไป. รูปแบบการแสดงผล : จะถูกระบุโดยเครื่องหมาย % ตามด้วยอักษรแสดงรูปแบบ. ในกรณีนี้ % d ระบุว่าเราจะพิมพ์ตัวเลขฐานสิบ

28. printenv

==> คำสั่งนี้จะแสดงค่าตัวแปลสภาพ แวดล้อม.
ตัวอย่าง : เซ็ตค่าตัวแปรสภาพแวดล้อมจะใช้คำสั่ง ‘setenv’

29. pg

==> เป็นคำสั่งใช้แสดง content ของไฟล์ ทั้งหมดทีละจอภาพ ถ้าต้องการแสดงหน้า ถัดไป ต้องกด แป้น enter;
รูปแบบ : pg filename

30.Quota

==> เป็นคำสั่งตรวจสอบการใช้เนื้อที่
รูปแบบ : quota [-v] [username]
ตัวอย่าง: $ quota -v

31. Rlogin

==> ใช้เพื่อเปิดการเชื่อมต่อ ด้วย rlogin. rsh. ใช้เพื่อ execute คำสั่งแบบ Remote (การใช้คำสั่งทำงานบน Host อื่นแบบ Remote)

วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551

VMWare


VMWare คืออะไร
..........โปรแกรม VMWare เป็นโปรแกรมที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อสร้างคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtual Machine) ขึ้นบนระบบปฏิบัติการเดิมที่มีอยู่ ตัวอย่างเช่นในรูปที่ 1 เป็นรูปที่แสดงถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ลงระบบปฏิบัติการ Windows XP อยู่เดิม แล้วทำการลงระบบปฏิบัติการ Windows NT ผ่านโปรแกรม VMWare อีกทีหนึ่ง ซึ่งเมื่อลงแล้ว ทั้งสองระบบสามารถทำงานพร้อมกันได้โดยแยกจากกันค่อนข้างเด็ดขาด (เสมือนเป็นคนละเครื่อง) โดยคอมพิวเตอร์เสมือนที่สร้างขึ้นมานั้น จะมีสภาพแวดล้อมเหมือนกับคอมพิวเตอร์จริงๆ เครื่องหนึ่ง ซึ่งจะประกอบด้วย พื้นที่ดิสก์ที่ใช้ร่วมกับพื้นที่ดิสก์ของเครื่องนั้นๆ การ์ดแสดงผล การ์ดเน็ตเวิร์ก พื้นที่หน่วยความจำซึ่งจะแบ่งการทำงานมาจากหน่วยความจำของเครื่องนั้นๆ เช่นกัน



รูปที่ 1 แสดงการใช้ระบบปฏิบัติการ Windows NT บน Windows XP



..........ปัจจุบันโปรแกรม VMWare มีเวอร์ชันทั้งสำหรับการทำงานบน Windows และ Linux หากเครื่องท่านเป็น Windows ก็สามารถลองเวอร์ชันสำหรับ Windows ได้ โดยท่านสามารถเข้าไปโหลดโปรแกรมมาทดลองใช้งานได้ที่ URL http://www.vmware.com/ แล้วเลือกที่ download และทำการดาวน์โหลด VMWare Workstation ซึ่งจะมีเวลาให้ทดลองใช้งานอยู่ที่ 30 วัน


คุณสมบัติขั้นต่ำของเครื่องคอมพิวเตอร์
- CPU ความเร็วไม่ต่ำกว่า 500 MHz

- หน่วยความจำขั้นต่ำ 256 MB

- การ์ดแสดงผลแบบ 16 บิต หรือ 32 บิต

- พื้นที่ดิสก์ในการลงโปรแกรม 80 MB สำหรับเวอร์ชัน Linux และ 150 MB สำหรับ Windows

- พื้นที่ดิสก์ขนาดไม่ต่ำกว่า 1 GB ต่อการลงระบบปฎิบัติการ 1 ระบบ

..........สำหรับข้อจำกัดของการทำงานบน VMWare ก็คือ VMWare จะสร้างสภาพแวดล้อมของฮาร์ดแวร์ต่างๆ ซึ่งเป็นของตัวโปรแกรม VMWare เอง ดังนั้นการใช้ฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์หลักและคอมพิวเตอร์เสมือนจะไม่เหมือนกัน จึงไม่สามารถที่จะติดตั้งไดรเวอร์ของฮาร์ดแวร์จริงๆ ให้กับคอมพิวเตอร์เสมือนที่ลงผ่านโปรแกรม VMWare ได้


VMWare มีประโยชน์อย่างไร

1. ใช้จำลองการทำงาน ระหว่าง Client และ Many Server Many OS

2. คุณสามารถลง บน XP หรือ Linux ก็ได้

3. สามารถทดสอบ กับ Client ใน Network หรือ กับ เครื่องเดียวกับ VM server ได้

4. ประหยัดค่าใช้จ่าย


หน้าตาของVMWare


หน้าตาของ VMWaer บนระบบปฎิบัติการเดิม


แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม..


1. http://www.vmware.com/

2. http://www.gits.net.th/knowledge/newsletter/ittrip/index.asp?MenuID=28&RootMenuID=8&book=6

3. http://www.rmutclub.com/forums/index.php?action=printpage;topic=81.0

4. http://www.expert2you.com/article1/705/index.htm?page_no=1

5. http://www.blognone.com/node/4645

6. http://www.itdestination.com/resources/vmware/

7. http://www.ubuntuclub.com/node/1062











วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ประวัติความเป็นมาของระบบปฎิบัติการ ยูนิกซ์ (Unix )

ประวัติระบบปฎิบัติการ ยูนิกซ์ (Unix )

..........ในทศวรรษที่ 60 สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) , AT&T Bell Labs และบริษัท General Electric ได้ร่วมมือกันวิจัยระบบปฏิบัติการที่ชื่อว่า Multics (ย่อมาจาก Multiplexed Information and Computing Service) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำงานบนเครื่องเมนเฟรมรุ่น GE-645 แต่ภายหลัง AT&T ได้ถอนตัวออกจากโครงการนี้
..........Ken Thompson ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมพัฒนาในขณะนั้น ได้เขียนเกมบนเครื่อง GE-645 ชื่อว่าเกม Space Travel และพบปัญหาว่าเกมทำงานได้ช้ากว่าที่ควร เขาจึงย้ายมาเขียนเกมใหม่บนเครื่อง PDP-7 ของบริษัท DEC แทนด้วยภาษาแอสเซมบลี โดยความช่วยเหลือของ Dennis Ritchie ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้ Thompson หันมาพัฒนาระบบปฏิบัติการบนเครื่อง PDP-7
..........ระบบปฏิบัติการนี้มีชื่อว่า UNICS ย่อมาจาก Uniplexed Information and Computing System เนื่องจากว่าการออกเสียงสามารถสะกดได้หลายแบบ และพบปัญหาชื่อใกล้เคียงกับ Multics ภายหลังจึงเปลี่ยนชื่อเป็น Unix
..........การพัฒนายูนิกซ์ในช่วงนี้ยังไม่ได้รับความสนับสนุนด้านการเงินจาก Bell Labs เมื่อระบบพัฒนามากขึ้น Thompson และ Ritchie จึงสัญญาว่าจะเพิ่มความสามารถในการประมวลผลคำ (Word Processing) บนเครื่อง PDP-11/20 และเริ่มได้รับการตอบรับจาก Bell Labs ในปีค.ศ. 1970 ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์จึงได้รับการเรียกชื่ออย่างเป็นทางการ โปรแกรมประมวลผลคำมีชื่อว่า roff และหนังสือ UNIX Programmer's Manual ตีพิมพ์ครั้งแรกวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1971
..........ค.ศ. 1973 ได้เขียนยูนิกซ์ขึ้นมาใหม่ด้วยภาษาซี ทำให้สะดวกต่อการนำยูนิกซ์ไปทำงานบนเครื่องชนิดอื่นมากขึ้น ทาง AT&T ได้เผยแพร่ยูนิกซ์ไปยังมหาวิทยาลัย และหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล โดยสัญญาการใช้งานเปิดเผยซอร์สโค้ด ยกเว้นเคอร์เนลส่วนที่เขียนด้วยภาษาแอสเซมบลี
ยูนิกซ์เวอร์ชัน 4,5 และ 6 ออกในค.ศ. 1975 ได้เพิ่มคุณสมบัติ pipe เข้ามา ยูนิกซ์เวอร์ชัน 7 ซึ่งเป็นเวอร์ชันสุดท้ายที่พัฒนาแบบการวิจัย ออกในค.ศ. 1979 ยูนิกซ์เวอร์ชัน 8,9 และ 10 ออกมาในภายหลังในทศวรรษที่ 80 ในวงจำกัดเฉพาะมหาวิทยาลัยบางแห่งเท่านั้น และเป็นต้นกำเนิดของระบบปฏิบัติการ Plan 9
..........ค.ศ. 1982 AT&T นำยูนิกซ์ 7 มาพัฒนาและออกขายในชื่อ Unix System III แต่บริษัทลูกของ AT&T ชื่อว่า Western Electric ยังคงนำยูนิกซ์รุ่นเก่ามาขายอยู่เช่นกัน เพื่อยุติความสับสนทางด้านชื่อ AT&T จึงรวมการพัฒนาทั้งหมดจากบริษัทและมหาวิทยาลัยต่างๆใน Unix System V ซึ่งมีโปรแกรมอย่าง vi ที่พัฒนาโดย Berkeley Software Distribution (BSD) จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ รวมอยู่ด้วย ยูนิกซ์รุ่นนี้สามารถทำงานได้บนเครื่อง VAX ของบริษัท DEC
ยูนิกซ์รุ่นที่เป็นการค้าไม่เปิดเผยซอร์สโค้ดอีกต่อไป ทางมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ จึงพัฒนายูนิกซ์ของตัวเองต่อเพื่อเป็นทางเลือกกับ System V การพัฒนาที่สำคัญที่สุดคือเพิ่มการสนับสนุนโพรโทคอลสำหรับเครือข่าย TCP/IP เข้ามา
..........บริษัทอื่นๆ เริ่มพัฒนายูนิกซ์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบของตนเอง โดยส่วนมากใช้ยูนิกซ์ที่ซื้อสัญญามาจาก System V แต่บางบริษัทเลือกพัฒนาจาก BSD แทน หนึ่งในทีมพัฒนาของ BSD คือ Bill Joy มีส่วนในการสร้าง SunOS (ปัจจุบันคือ โซลาริส) ของบริษัทซัน ไมโครซิสเต็มส์
..........ค.ศ. 1981 ทีมพัฒนา BSD ได้ออกจากมหาวิทยาลัยและก่อตั้งบริษัท Berkeley Software Design, Inc (BSDI) เป็นบริษัทแรกที่นำ BSD มาขายในเชิงการค้า ในภายหลังเป็นต้นกำเนิดของระบบปฏิบัติการ FreeBSD, OpenBSD และ NetBSD
..........AT&T ยังคงพัฒนาความสามารถต่างๆ เข้าสู่ยูนิกซ์ System V และรวมเอา Xenix (ยูนิกซ์ของบริษัทไมโครซอฟท์) , BSD และ SunOS เข้ามารวมใน System V Release 4 (SVR4) เพื่อเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งเดียวสำหรับลูกค้า ซึ่งเพิ่มราคาขึ้นอีกมาก
..........หลังจากนั้นไม่นาน AT&T ขายสิทธิ์ในการถือครองยูนิกซ์ให้กับบริษัทโนเวลล์ และโนเวลเองได้สร้างยูนิกซ์ของตัวเองที่ชื่อ UnixWare ซึ่งพัฒนามาจากระบบปฏิบัติการ NetWare เพื่อแข่งกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์เอ็นทีของไมโครซอฟท์
..........ค.ศ. 1995 โนเวล ขายส่วนต่างๆ ของยูนิกซ์ให้กับบริษัท Santa Cruz Operation (SCO) โดยโนเวลยังถือลิขสิทธิ์ของยูนิกซ์ไว้ ค.ศ. 2000 SCO ขายสิทธิ์ส่วนของตนเองให้กับบริษัท Caldera ซึ่งเปลี่ยนชื่อภายหลังเป็น SCO Group ซึ่งเป็นสาเหตุในการดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์กับลินุกซ์

***************************************************************

แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม

1. http://www.spu.ac.th/forum/vishakan/index7.html

2. http://www.thaiwbi.com/course/unix/index2.html

3. http://learners.in.th/blog/bankeducation/160518

4. http://www.jobpub.com/articles/showarticle.asp?id=89

5. http://thaicert.nectec.or.th/paper/unix_linux/recov-file.php

6. http://nanotech.sc.mahidol.ac.th/c/unix/index.htm

7. http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B9%8C

วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2551

คำอธิบายรายวิชาระบบปฏิบัติการ 2

คำอธิบายรายวิชา

ชื่อวิชา : ระบบปฏิบัติการ 2 ( Operating Systems 2 )

คำอธิบายรายวิชา

ศึกษาหน้าที่และการดำเนินงานของระบบปฏิบัติการเกี่ยวกับจัดการหน่วยความจำ
หน่วยประมวลผลกลางการจัดแฟ้มข้อมูล หน่วยรับและแสดงผลข้อมูลในลักษณะ
ของผู้ใช้คนเดียว งานเดียว และใช้หลายคนหลายงานพร้อมกัน รวมทั้ง
การสื่อสารระหว่างขบวนการ (Interprocess Communication : IPC)

URL Website

ลีนุกซ์ (Linux)
1. http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/software/linux/index.html
2.
http://www.thaiwbi.com/course/linux/index2.html
3.
http://schoolnet.nectec.or.th/library/create-web/10000/technology/10000-9059.html
4.
http://www.thaiopenlinux.com/
5.
http://www.freeos.com/

Unix
6. http://www.thaiwbi.com/course/unix/index2.html
7.
http://www.jobpub.com/articles/showarticle.asp?id=89
8.
http://thaicert.nectec.or.th/paper/unix_linux/recov-file.php
9.
http://nanotech.sc.mahidol.ac.th/c/unix/index.htm

Windows Server
10. http://surin.nfe.go.th/main/elearning/
11.
http://www.vcharkarn.com/vblog/38360

ระบบปฏิบัติการ
12. http://www.geocities.com/windows_95_2001/







วันพุธที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2551

แนะนำตัวเอง



ชื่อ นายชาญชัย ยาศรี

ชื่อเล่น ชล อายุ 19 ปี

ขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ มหาวิทยาลัยราชภํฏศรีสะเกษ

สาขา วิทยาการคอมพิวเตอร์ ชั้นปีที่ 2

รหัสนักศึกษา 5012252202

ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ : บ้านเลขที่ 80 หมู่ที่ 2 ตำบล ปราสาทเยอ อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ 33180

เบอร์โทรศัพท์ 0875529311

E-mail Address : nabuta_2008@hotmail.com
เพื่อนของข้าพเจ้า
1. นาย ศรไกร เรืองศรี วิทยาการคอมพิวเตอร์ชั้นปีที่ 2
2. นางสาวพนิดา ธรรมวัตร วิทยาการคอมพิวเตอร์ชั้นปีที่ 2