วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551

VMWare


VMWare คืออะไร
..........โปรแกรม VMWare เป็นโปรแกรมที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อสร้างคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtual Machine) ขึ้นบนระบบปฏิบัติการเดิมที่มีอยู่ ตัวอย่างเช่นในรูปที่ 1 เป็นรูปที่แสดงถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ลงระบบปฏิบัติการ Windows XP อยู่เดิม แล้วทำการลงระบบปฏิบัติการ Windows NT ผ่านโปรแกรม VMWare อีกทีหนึ่ง ซึ่งเมื่อลงแล้ว ทั้งสองระบบสามารถทำงานพร้อมกันได้โดยแยกจากกันค่อนข้างเด็ดขาด (เสมือนเป็นคนละเครื่อง) โดยคอมพิวเตอร์เสมือนที่สร้างขึ้นมานั้น จะมีสภาพแวดล้อมเหมือนกับคอมพิวเตอร์จริงๆ เครื่องหนึ่ง ซึ่งจะประกอบด้วย พื้นที่ดิสก์ที่ใช้ร่วมกับพื้นที่ดิสก์ของเครื่องนั้นๆ การ์ดแสดงผล การ์ดเน็ตเวิร์ก พื้นที่หน่วยความจำซึ่งจะแบ่งการทำงานมาจากหน่วยความจำของเครื่องนั้นๆ เช่นกัน



รูปที่ 1 แสดงการใช้ระบบปฏิบัติการ Windows NT บน Windows XP



..........ปัจจุบันโปรแกรม VMWare มีเวอร์ชันทั้งสำหรับการทำงานบน Windows และ Linux หากเครื่องท่านเป็น Windows ก็สามารถลองเวอร์ชันสำหรับ Windows ได้ โดยท่านสามารถเข้าไปโหลดโปรแกรมมาทดลองใช้งานได้ที่ URL http://www.vmware.com/ แล้วเลือกที่ download และทำการดาวน์โหลด VMWare Workstation ซึ่งจะมีเวลาให้ทดลองใช้งานอยู่ที่ 30 วัน


คุณสมบัติขั้นต่ำของเครื่องคอมพิวเตอร์
- CPU ความเร็วไม่ต่ำกว่า 500 MHz

- หน่วยความจำขั้นต่ำ 256 MB

- การ์ดแสดงผลแบบ 16 บิต หรือ 32 บิต

- พื้นที่ดิสก์ในการลงโปรแกรม 80 MB สำหรับเวอร์ชัน Linux และ 150 MB สำหรับ Windows

- พื้นที่ดิสก์ขนาดไม่ต่ำกว่า 1 GB ต่อการลงระบบปฎิบัติการ 1 ระบบ

..........สำหรับข้อจำกัดของการทำงานบน VMWare ก็คือ VMWare จะสร้างสภาพแวดล้อมของฮาร์ดแวร์ต่างๆ ซึ่งเป็นของตัวโปรแกรม VMWare เอง ดังนั้นการใช้ฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์หลักและคอมพิวเตอร์เสมือนจะไม่เหมือนกัน จึงไม่สามารถที่จะติดตั้งไดรเวอร์ของฮาร์ดแวร์จริงๆ ให้กับคอมพิวเตอร์เสมือนที่ลงผ่านโปรแกรม VMWare ได้


VMWare มีประโยชน์อย่างไร

1. ใช้จำลองการทำงาน ระหว่าง Client และ Many Server Many OS

2. คุณสามารถลง บน XP หรือ Linux ก็ได้

3. สามารถทดสอบ กับ Client ใน Network หรือ กับ เครื่องเดียวกับ VM server ได้

4. ประหยัดค่าใช้จ่าย


หน้าตาของVMWare


หน้าตาของ VMWaer บนระบบปฎิบัติการเดิม


แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม..


1. http://www.vmware.com/

2. http://www.gits.net.th/knowledge/newsletter/ittrip/index.asp?MenuID=28&RootMenuID=8&book=6

3. http://www.rmutclub.com/forums/index.php?action=printpage;topic=81.0

4. http://www.expert2you.com/article1/705/index.htm?page_no=1

5. http://www.blognone.com/node/4645

6. http://www.itdestination.com/resources/vmware/

7. http://www.ubuntuclub.com/node/1062











วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ประวัติความเป็นมาของระบบปฎิบัติการ ยูนิกซ์ (Unix )

ประวัติระบบปฎิบัติการ ยูนิกซ์ (Unix )

..........ในทศวรรษที่ 60 สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) , AT&T Bell Labs และบริษัท General Electric ได้ร่วมมือกันวิจัยระบบปฏิบัติการที่ชื่อว่า Multics (ย่อมาจาก Multiplexed Information and Computing Service) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำงานบนเครื่องเมนเฟรมรุ่น GE-645 แต่ภายหลัง AT&T ได้ถอนตัวออกจากโครงการนี้
..........Ken Thompson ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมพัฒนาในขณะนั้น ได้เขียนเกมบนเครื่อง GE-645 ชื่อว่าเกม Space Travel และพบปัญหาว่าเกมทำงานได้ช้ากว่าที่ควร เขาจึงย้ายมาเขียนเกมใหม่บนเครื่อง PDP-7 ของบริษัท DEC แทนด้วยภาษาแอสเซมบลี โดยความช่วยเหลือของ Dennis Ritchie ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้ Thompson หันมาพัฒนาระบบปฏิบัติการบนเครื่อง PDP-7
..........ระบบปฏิบัติการนี้มีชื่อว่า UNICS ย่อมาจาก Uniplexed Information and Computing System เนื่องจากว่าการออกเสียงสามารถสะกดได้หลายแบบ และพบปัญหาชื่อใกล้เคียงกับ Multics ภายหลังจึงเปลี่ยนชื่อเป็น Unix
..........การพัฒนายูนิกซ์ในช่วงนี้ยังไม่ได้รับความสนับสนุนด้านการเงินจาก Bell Labs เมื่อระบบพัฒนามากขึ้น Thompson และ Ritchie จึงสัญญาว่าจะเพิ่มความสามารถในการประมวลผลคำ (Word Processing) บนเครื่อง PDP-11/20 และเริ่มได้รับการตอบรับจาก Bell Labs ในปีค.ศ. 1970 ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์จึงได้รับการเรียกชื่ออย่างเป็นทางการ โปรแกรมประมวลผลคำมีชื่อว่า roff และหนังสือ UNIX Programmer's Manual ตีพิมพ์ครั้งแรกวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1971
..........ค.ศ. 1973 ได้เขียนยูนิกซ์ขึ้นมาใหม่ด้วยภาษาซี ทำให้สะดวกต่อการนำยูนิกซ์ไปทำงานบนเครื่องชนิดอื่นมากขึ้น ทาง AT&T ได้เผยแพร่ยูนิกซ์ไปยังมหาวิทยาลัย และหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล โดยสัญญาการใช้งานเปิดเผยซอร์สโค้ด ยกเว้นเคอร์เนลส่วนที่เขียนด้วยภาษาแอสเซมบลี
ยูนิกซ์เวอร์ชัน 4,5 และ 6 ออกในค.ศ. 1975 ได้เพิ่มคุณสมบัติ pipe เข้ามา ยูนิกซ์เวอร์ชัน 7 ซึ่งเป็นเวอร์ชันสุดท้ายที่พัฒนาแบบการวิจัย ออกในค.ศ. 1979 ยูนิกซ์เวอร์ชัน 8,9 และ 10 ออกมาในภายหลังในทศวรรษที่ 80 ในวงจำกัดเฉพาะมหาวิทยาลัยบางแห่งเท่านั้น และเป็นต้นกำเนิดของระบบปฏิบัติการ Plan 9
..........ค.ศ. 1982 AT&T นำยูนิกซ์ 7 มาพัฒนาและออกขายในชื่อ Unix System III แต่บริษัทลูกของ AT&T ชื่อว่า Western Electric ยังคงนำยูนิกซ์รุ่นเก่ามาขายอยู่เช่นกัน เพื่อยุติความสับสนทางด้านชื่อ AT&T จึงรวมการพัฒนาทั้งหมดจากบริษัทและมหาวิทยาลัยต่างๆใน Unix System V ซึ่งมีโปรแกรมอย่าง vi ที่พัฒนาโดย Berkeley Software Distribution (BSD) จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ รวมอยู่ด้วย ยูนิกซ์รุ่นนี้สามารถทำงานได้บนเครื่อง VAX ของบริษัท DEC
ยูนิกซ์รุ่นที่เป็นการค้าไม่เปิดเผยซอร์สโค้ดอีกต่อไป ทางมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ จึงพัฒนายูนิกซ์ของตัวเองต่อเพื่อเป็นทางเลือกกับ System V การพัฒนาที่สำคัญที่สุดคือเพิ่มการสนับสนุนโพรโทคอลสำหรับเครือข่าย TCP/IP เข้ามา
..........บริษัทอื่นๆ เริ่มพัฒนายูนิกซ์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบของตนเอง โดยส่วนมากใช้ยูนิกซ์ที่ซื้อสัญญามาจาก System V แต่บางบริษัทเลือกพัฒนาจาก BSD แทน หนึ่งในทีมพัฒนาของ BSD คือ Bill Joy มีส่วนในการสร้าง SunOS (ปัจจุบันคือ โซลาริส) ของบริษัทซัน ไมโครซิสเต็มส์
..........ค.ศ. 1981 ทีมพัฒนา BSD ได้ออกจากมหาวิทยาลัยและก่อตั้งบริษัท Berkeley Software Design, Inc (BSDI) เป็นบริษัทแรกที่นำ BSD มาขายในเชิงการค้า ในภายหลังเป็นต้นกำเนิดของระบบปฏิบัติการ FreeBSD, OpenBSD และ NetBSD
..........AT&T ยังคงพัฒนาความสามารถต่างๆ เข้าสู่ยูนิกซ์ System V และรวมเอา Xenix (ยูนิกซ์ของบริษัทไมโครซอฟท์) , BSD และ SunOS เข้ามารวมใน System V Release 4 (SVR4) เพื่อเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งเดียวสำหรับลูกค้า ซึ่งเพิ่มราคาขึ้นอีกมาก
..........หลังจากนั้นไม่นาน AT&T ขายสิทธิ์ในการถือครองยูนิกซ์ให้กับบริษัทโนเวลล์ และโนเวลเองได้สร้างยูนิกซ์ของตัวเองที่ชื่อ UnixWare ซึ่งพัฒนามาจากระบบปฏิบัติการ NetWare เพื่อแข่งกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์เอ็นทีของไมโครซอฟท์
..........ค.ศ. 1995 โนเวล ขายส่วนต่างๆ ของยูนิกซ์ให้กับบริษัท Santa Cruz Operation (SCO) โดยโนเวลยังถือลิขสิทธิ์ของยูนิกซ์ไว้ ค.ศ. 2000 SCO ขายสิทธิ์ส่วนของตนเองให้กับบริษัท Caldera ซึ่งเปลี่ยนชื่อภายหลังเป็น SCO Group ซึ่งเป็นสาเหตุในการดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์กับลินุกซ์

***************************************************************

แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม

1. http://www.spu.ac.th/forum/vishakan/index7.html

2. http://www.thaiwbi.com/course/unix/index2.html

3. http://learners.in.th/blog/bankeducation/160518

4. http://www.jobpub.com/articles/showarticle.asp?id=89

5. http://thaicert.nectec.or.th/paper/unix_linux/recov-file.php

6. http://nanotech.sc.mahidol.ac.th/c/unix/index.htm

7. http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B9%8C

วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2551

คำอธิบายรายวิชาระบบปฏิบัติการ 2

คำอธิบายรายวิชา

ชื่อวิชา : ระบบปฏิบัติการ 2 ( Operating Systems 2 )

คำอธิบายรายวิชา

ศึกษาหน้าที่และการดำเนินงานของระบบปฏิบัติการเกี่ยวกับจัดการหน่วยความจำ
หน่วยประมวลผลกลางการจัดแฟ้มข้อมูล หน่วยรับและแสดงผลข้อมูลในลักษณะ
ของผู้ใช้คนเดียว งานเดียว และใช้หลายคนหลายงานพร้อมกัน รวมทั้ง
การสื่อสารระหว่างขบวนการ (Interprocess Communication : IPC)

URL Website

ลีนุกซ์ (Linux)
1. http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/software/linux/index.html
2.
http://www.thaiwbi.com/course/linux/index2.html
3.
http://schoolnet.nectec.or.th/library/create-web/10000/technology/10000-9059.html
4.
http://www.thaiopenlinux.com/
5.
http://www.freeos.com/

Unix
6. http://www.thaiwbi.com/course/unix/index2.html
7.
http://www.jobpub.com/articles/showarticle.asp?id=89
8.
http://thaicert.nectec.or.th/paper/unix_linux/recov-file.php
9.
http://nanotech.sc.mahidol.ac.th/c/unix/index.htm

Windows Server
10. http://surin.nfe.go.th/main/elearning/
11.
http://www.vcharkarn.com/vblog/38360

ระบบปฏิบัติการ
12. http://www.geocities.com/windows_95_2001/







วันพุธที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2551

แนะนำตัวเอง



ชื่อ นายชาญชัย ยาศรี

ชื่อเล่น ชล อายุ 19 ปี

ขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ มหาวิทยาลัยราชภํฏศรีสะเกษ

สาขา วิทยาการคอมพิวเตอร์ ชั้นปีที่ 2

รหัสนักศึกษา 5012252202

ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ : บ้านเลขที่ 80 หมู่ที่ 2 ตำบล ปราสาทเยอ อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ 33180

เบอร์โทรศัพท์ 0875529311

E-mail Address : nabuta_2008@hotmail.com
เพื่อนของข้าพเจ้า
1. นาย ศรไกร เรืองศรี วิทยาการคอมพิวเตอร์ชั้นปีที่ 2
2. นางสาวพนิดา ธรรมวัตร วิทยาการคอมพิวเตอร์ชั้นปีที่ 2